top of page

Post

รักษ์โลก ช่วยโลกลดขยะเศษอาหาร (Food Waste) ..เริ่มต้นได้ที่ตัวเรา


ช่วงกักตัวโควิด-19 ที่ผ่านมา เพื่อนๆ หลายคนเป็นเหมือนแอดไหมคะ?😊 ที่มักจะทำอาหารทานเอง และสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ทานอยู่เป็นประจำ ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหน …เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า การสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นหลายเท่าตั้งแต่ก่อนช่วงโควิด ทำให้ปัญหาที่ตามมานั่นก็คือ ปริมาณของ ‘ขยะ’ ที่เพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่าเราทุกคนตระหนักและพยายามร่วมมือแก้ปัญหานี้กันอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแยกขยะ การใช้ถุงผ้าช็อปปิ้ง การนำบรรจุภัณฑ์มารีไซเคิล การปฏิเสธช้อนส้อมพลาสติก หรือแม้แต่การที่ร้านค้าหลายแห่งหันมาใช้บรรจุภัณฑ์จากวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายแทน

…แต่สิ่งหนึ่งที่ใครหลายๆ คนมองข้ามนั่นคือ ‘ขยะเศษอาหาร’ ที่ถูกมองว่าสามารถย่อยสลายได้ง่ายนั้น กลับกลายเป็นเรื่องที่ถูกลืม และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่คิด ขยะเศษอาหาร (Food Waste) องค์การอาหารและการเกษตรประชาชาติ (Food and Agriculture Organization หรือ FAO) รายงานว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวันนั้น มักถูกทิ้งให้กลายเป็นขยะ ในขณะที่ยังมีคนทั่วโลกอีก 690 ล้านคน กำลังประสบภาวะหิวโหยอดอยาก โดย ‘ขยะเศษอาหาร’ (Food Waste) ในแต่ละปีมีปริมาณมากถึง 1,800 ตัน ซึ่งมากเกินพอที่จะทำให้คนทั่วโลกที่กำลังประสบภาวะหิวโหยอดอยากเหล่านั้นได้อิ่มท้อง นอกจากนี้ขยะเศษอาหารทั้งหมดนี้ก็ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายชั้นบรรยากาศโลกได้มากถึง 4.4 กิกะตัน หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคคมนาคม และมากกว่าภาคอุตสาหกรรมการบินอีกนะ 🏭

… อาหารปริมาณมากเกินที่เราทานไม่หมด อาหารที่ทานไม่ทันเพราะต้องรีบไปทำงาน หรือแม้กระทั่งอาหารที่เราทิ้งไป เพราะความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับอายุการเก็บรักษาของมัน ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิด ‘ขยะเศษอาหาร’ ด้วยกันทั้งสิ้น

วันนี้แอดจึงมาบอก 5 วิธีการง่ายๆ ในการลดขยะเศษอาหาร ที่สามารถทำได้ในทุกวัน😊 1) ทำลิสต์รายการอาหารที่จำเป็นล่วงหน้าก่อนช็อปปิ้ง 📃

การช็อปปิ้งที่มากเกินจำเป็นสาเหตุหนึ่งของการที่ก่อให้เกิดปัญหาขยะอาหารในครัวเรือน แอดก็เคยเป็นคนที่เวลาไปช็อปปิ้งแล้ว พอเห็นอะไรน่าทานก็หยิบซื้อมาเยอะมากเกินจำเป็น หลายครั้งก็ใช้ประกอบอาหารไม่ทัน และต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย

ต่อมาจึงลองทำ ‘รายการซื้ออาหาร’ ไว้ล่วงหน้า แล้วทบทวนดูว่า ในปริมาณการซื้อเท่านี้ เหมาะสมและเพียงพอสำหรับเราแล้วหรือยัง เพื่อที่จะไม่ต้องทิ้งวัตถุดิบอะไรไปให้ต้องรู้สึกเสียดายทีหลัง

2) จัดการวัตถุดิบให้ถูกต้องเป็นระเบียบ เพื่อยืดอายุวัตถุดิบให้นานที่สุด ❄️

การที่นำวัตถุดิบทุกอย่างที่เราช็อปปิ้งมายัดใส่ตู้เย็นโดยไม่มีการจัดระบบ มักทำให้เราลืมว่า ซื้ออะไรมาบ้าง และซื้อมันมาเมื่อไหร่กันแน่ ก่อนจบลงด้วยการทิ้งมันลงถังขยะ

ดังนั้น ควรจัดการวัตถุดิบให้เป็นระบบระเบียบตั้งแต่แรกที่เราเพิ่งช็อปปิ้งมา เช่น การนำวัตถุดิบใส่ทัปเพอร์แวร์ใสให้มองเห็นได้ชัดเจน การติดฉลากวันที่ซื้อมา หรือแม้กระทั่งเคล็ดลับในการจัดเก็บวัตถุดิบให้ยืดอายุได้นานที่สุด เช่น การคั้นน้ำมะนาวแช่แข็งเก็บไว้ การห่อผักด้วยกระดาษเก็บไว้ในช่องแช่ผัก หรือการนำขนมปังปอนด์เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยรักษาคุณค่าและช่วยยืดอายุของวัตถุดิบเหล่านั้นได้นานขึ้น

3) เข้าใจความแตกต่างของ Expiry Date กับ Best Before 💡

ความสับสนระหว่าง ‘วันหมดอายุ’ (Expiry Date) กับ ‘ควรบริโภคก่อน’ (Best Before) ทำให้วัตถุดิบหลายอย่างต้องถูกทิ้งขว้างไป และกลายเป็นขยะอาหารโดยไม่จำเป็น เราจึงควรทำความเข้าใจกับสองสิ่งนี้เสียใหม่

Expiry Date หรือ ‘วันหมดอายุ’ (EXP/EXD) หมายถึงอาหารที่หมดอายุ ณ วันที่ระบุไว้ข้างฉลาก ไม่ควรนำมารับประทานต่อ เพราะคุณภาพของอาหารอาจจะลดลง และอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ส่วน Best Before หรือ ‘ควรบริโภคก่อน’ (BB/BBE) หมายถึงอาหารจะยังมีลักษณะและรสชาติที่ดี รวมถึงมีสารอาหารครบถ้วน จนถึงวันที่ระบุไว้ข้างฉลาก หลังจากนั้น ยังสามารถนำมาทานต่อได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่อาจจะไม่ได้มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมือนตอนที่ผลิตใหม่ๆ เท่านั้นเอง

4) ใช้ประโยชน์จากเศษอาหารต่างๆ ให้ได้มากที่สุด 👍

ก่อนที่เราจะทิ้งเศษอาหารให้กลายเป็นขยะ ควรคิดหาวิธีใช้ขยะเศษอาหารเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น เอาเปลือกมะนาวไปทำเป็นน้ำยาล้างทำความสะอาด หรือนำชิ้นส่วนของผักบางชนิดมาปลูกใหม่ (Regrow) เพื่อเอามาใช้ต่อในอนาคต เป็นต้น

5) นำขยะเศษอาหารที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ไปเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ 🌳

ท้ายที่สุดแล้ว แอดเชื่อว่าก็ยังมีขยะเศษอาหารที่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แล้วจริงๆ แอดก็อยากแนะนำให้นำเศษอาหารเหล่านั้นไปใส่เครื่องบดขยะเศษอาหาร เมื่อใช้งานเครื่องบดขยะเศษอาหารเสร็จสิ้นเราก็จะได้ปุ๋ยมาผสมดินใส่ต้นไม้ที่บ้าน และอาจถือโอกาสนี้ปลูกพืชผักสวนครัวเล็กๆ ที่บ้านไปด้วยเลย เพื่อนๆ จะได้มีผักที่สดใหม่ปลอดสารพิษไว้ทานเองที่บ้าน 👉 ใครที่สนใจเครื่องบดขยะเศษอาหาร แอดก็มีแนะนำนะ🥰



แอดก็อยากให้เพื่อนๆ ทดลองทำตาม 5 วิธีที่แนะนำมานี้ไปทีละนิด เพราะนอกจากเราจะได้ลดขยะเศษอาหารเพื่อเป็นการช่วยรักษ์โลกด้วยตัวเราแล้ว🌍🌳 การที่เราไม่ต้องทิ้งอาหารไปเฉยๆ ก็ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปในตัวด้วย 😉💰 แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไปนะคะ 🥰

แอดมิน G

อ้างอิง https://plus.thairath.co.th/topic/naturematter/100138



bottom of page